วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

สรุปผลจากเวทีปฏิรูปพลังงาน


     เสวนาถาม-ตอบ ปัญหาพลังงานชาติ 2 ผมเห็นว่าค่อนข้างสูญเปล่า เพราะรัฐชี้แจงเต็มที่ประชาชนไม่มีโอกาสแย้ง ทั้งที่เห็นว่ารัฐให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง

ช่วงเช้า 3 ชั่วโมงประชาชนได้พูด 40 นาทีครับ
เพราะกลุ่มทุนและข้าราชการพูด 2 ชัั่วโมงกว่า
พอผม จะขอพูดบ้างว่าที่เขาอธิบายไม่ถูกอย่างไร ก็ไม่สามารถทำได้ ถูกตัดบทเปลี่ยนเรื่องทุกที

พอพักทานข้าว กลุ่มทุนและข้าราชการก็ขึ้นชี้แจงฝ่ายเดียวอีก 1 ชั่วโมง ผมจึงต้องไปต่อคิวแย้งจากข้างล่างเวที ตัวอย่างเช่น

ประชาชนถามว่ากรรมสิทธิ์ปิโตรเลียมที่ขุดได้ในระบบสัมปทานเป็นของใคร?

รัฐตอบว่า ตามมาตรา 23 บอกว่าเป็นของรัฐ ผู้ได้จะขุดต้องได้รับสัมปทาน

อันนี้เป็นการตอบไม่ตรงคำถามเพราะเขาถามถึงปิโตรเลียมที่ขุดได้แล้ว จึงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด

ผมฟังแล้วเศร้าใจครับ เพราะมาตรา 23 หมายถึงก่อนให้สัมปทาน โดยในมาตรา 56 ระบุชัดเจนว่าหลังให้สัมปทาน ผู้รับสัมปทานสามารถเอาปิโตรเลียมที่ผลิตได้ไปขายทั้งจำนวน ซึ่งหมายถึงปิโตรเลียมที่ขุดได้เป็นของเอกชนไปแล้ว สัมปทานจึงเป็นการยกกรรมสิทธิ์ปิโตรเลียมของชาติไปให้เอกชน

แค่คำถามนี้คำถามเดียวก็รู้แล้วว่า รัฐมีธรรมาภิบาลหรือไม่?

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

ข้อเสนอ การปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนแต่ไม่ลืมความเป็นธรรมเพื่อประชาชน


รูปภาพ : ชมรมวิศวะ จุฬาฯ ร่วมปฏิรูปประเทศไทย ได้แถลงข้อเสนอ 
การปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนแต่ไม่ลืมความเป็นธรรมเพื่อประชาชน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 (แชร์ให้ ท่านนายกฯ และ รมว.พลังงาน ด้วยครับ)

ผมอยากให้ประชาชนนำไปเปรียบเทียบกับ ข้อเสนอของกลุ่มปฏิรูปเพื่อทุนยั่งยืนว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีข้อเสนอแตกกต่างกันอย่างไร ข้อเสนอใดเป็นประโยชน์ต่อชาติ และประชาชน อย่างแท้จริง คงตัดสินใจไม่ยากครับ

แม้กลุ่มทุนพลังงานจะเป็นเพื่อนของเขา แต่เขาก็เลือกยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ขอเสียงตบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อลูกหลานของเราด้วยครับ

งดพาดพิงบุคคลที่ 3 ครับ
      ชมรมวิศวะ จุฬาฯ ร่วมปฏิรูปประเทศไทย ได้แถลงข้อเสนอ
การปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนแต่ไม่ลืมความเป็นธรรมเพื่อประชาชน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 (แชร์ให้ ท่านนายกฯ และ รมว.พลังงาน ด้วยครับ)

ผมอยากให้ประชาชนนำไปเปรียบเทียบกับ ข้อเสนอของกลุ่มปฏิรูป เพื่อทุนยั่งยืนว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีข้อเสนอแตกกต่างกันอย่างไร ข้อเสนอใดเป็นประโยชน์ต่อชาติ และประชาชน อย่างแท้จริง คงตัดสินใจไม่ยากครับ

แม้กลุ่มทุนพลังงานจะเป็นเพื่อนของเขา แต่เขาก็เลือกยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ขอเสียงตบมือเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อลูกหลานของเราด้วยครับ

งดพาดพิงบุคคลที่ 3 ครับ

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

โปรดดูอีกครั้งหนึ่ง ประกาศจากคณะปฏิรูปพลังงานเพื่อประชาชน


      ชาวนาพม่าขุดน้ำมันดิบเอง ด้วยเครื่องยน์ยันม่า กับกว้านมือหมุน
กระทรวงไทยบอกต้นทุนสูง ขุดเจาะยาก ต้องฝรั่งเท่านั้นที่ทำได้

ตกลงพม่าทำคลิปมาหลอกเรา หรือคนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเอง
ตามข่าวนี้บอกว่า ชาวนาพม่าขายน้ำมันดิบ บาร์เรลละ 10 เหรียญ หรือ ลิตรละ 2 บาทครับ
"independent drillers are pumping up up to 300 barrels of crude oil a day, worth $3,000"

      และยังมีความเชื่อมั่นว่า การจัดการพลังงานของชาติสะอาดบริสุทธิ์เป็นผ้าขาว ถึงจะเชื่ออย่างไรก็คงต้องตรวจสอบครับ เพราะทรัพยากรเป็นของคนทั้งชาติ และมูลค่าพลังงานที่ประเทศต้องจ่ายสูงถึง 5 ล้านล้านบาท(มากกว่างบประมาณแผ่นดิน 2 เท่า) ครับ



     ชมคลิปเลยครับ ชัดเจน
http://www.youtube.com/watch?v=_XukuuxMgt0

อ่านข่าว
http://www.theguardian.com/world/2013/mar/05/burma-oil-rush
http://news.nationalgeographic.com/news/energy/2013/11/pictures/131127-manual-oil-drilling-myanmar/#/1-diy-oil-drilling-myanmar-damir-sagolj_73852_600x450.jpg
http://www.asiauncovered.net/2014/05/myanmars-manual-oil-drills.html
http://www.irrawaddy.org/feature/magazine-feature/black-gold-rush.html
http://www.dailykos.com/story/2013/11/18/1256545/-Burma-Myanmar-This-is-What-Unregulated-Oil-Extraction-Looks-Like#
http://www.hellenicshippingnews.com/who-will-benefit-from-myanmars-offshore-oil-rush/

      หมายเหตุ ที่ผมโพสต์นี้ มิได้ให้เอาเป็นแบบอย่างนะครับ เพราะมันอันตราย เพียงแต่ให้ดูว่าการขุดน้ำมัน มันไม่ได้อยากเย็นเข็ญใจ หรือ ต้นทุนสูงลิบโลก จนคนไทยบริษัทไทยๆทำกันไม่ได้เลย อย่างรัฐว่าไว้ว่าต้องพึ่งฝรั่งอย่างเดียว ความจริงการขุดน้ำมันมีมาเป็นร้อยปีแล้วครับ เครื่องมือก็แบบนี้แหละครับ