
สัมปทานไทยเอกชนรับความเสี่ยงทั้งหมดใช่ หรือ ไม่
คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะสัมปทานปิโตรเลียมไทยหย่อนยานกว่า ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อังกฤษ เนื่องจากสัมปทานไทยคิดภาษีปิโตรเลียมแบบรวมแปลงสัมปทาน ทำให้บริษัทนำค่าใช้จ่ายจากสัมปทานที่ออกใหม่ มาหักออกจากแปลงที่มีกำไรได้ (No Ring Fencing)
ดังนั้น หากแปลงสัมปทานใหม่ไม่เจอปิโตรเลียม ต้นทุนตรงนี้ก็ถูกนำไปหักจากกำไรในแปลงเก่าแล้ว ซึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลไทยได้ออกเงินค่าสำรวจให้เอกชนครึ่งหนึ่งนั่นเอง
แต่ของอังกฤษ คิดแบบแยกแปลงสัมปทาน (Field by Field) คือ คิดค่าใช้จ่ายแบบแปลงใครแปลงมัน ไม่นำมาปนกัน แปลงเก่าที่มีกำไรรัฐก็ได้ภาษีปิโตรเลียมเต็มที่ แปลงสัมปทานใหม่ที่ขาดทุนอยู่เอกชนก็ต้องเร่งผลิตให้ได้เพื่อล้างขาดทุน ทำให้รัฐได้ภาษีปิโตรเลียมเร็วขึ้น รัฐจะป้องกันการนำรายจ่ายมาหักข้ามแปลง (Ring Fencing)
สรุปว่าระบบภาษีแบบรวมแปลงของไทยมีข้อเสีย 2 ด้าน คือ
1.ความเสี่ยงในการสำรวจที่เข้าใจว่าเป็นของเอกชนถูกผลักให้รัฐผ่านระบบการคำนวนค่าใช้จ่ายแบบรวมแปลง ทำให้รัฐได้ภาษีปิโตรเลียมน้อยลง
2.เอกชนไม่ต้องเร่งผลิตในแปลงใหม่มากนัก เพราะระบบนี้ช่วยถ่ายเทกำไรให้เอกชน ทำให้รัฐได้ภาษีช้าลง
ระบบแบ่งปันผลผลิตจะไม่มีปัญหานี้ เพราะแบ่งกันที่ปริมาณน้ำมันแยกเป็นรายแปลงอยู่แล้ว
ถึงเวลาปฏิรูปสัมปทานไทยแล้วหรือยัง?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น